1. Bosch GSR 120-LI Professional
สว่านไร้สาย Bosch GSR 120-LI Professional เป็นตัวเลือกที่ยอดเยี่ยมสำหรับช่างมืออาชีพและงานซ่อมแซมที่บ้าน ด้วยแบตเตอรี่ลิเธียมไอออน 12 โวลต์ที่ทรงพลัง สว่านตัวนี้ให้พลังงานที่เพียงพอสำหรับงานเจาะและขันสกรูส่วนใหญ่ นอกจากนี้ยังมีระบบ Electronic Cell Protection (ECP) ที่ช่วยป้องกันแบตเตอรี่จากการใช้งานหนักเกินไปและยืดอายุการใช้งานให้ยาวนานขึ้น
2. Makita DDF483Z
Makita DDF483Z เป็นสว่านไร้สายคุณภาพสูงที่ใช้แบตเตอรี่ลิเธียมไอออน 18 โวลต์ ซึ่งให้พลังงานมากกว่าสว่านแบตเตอรี่ 12 โวลต์ทั่วไป สว่านรุ่นนี้มีความเร็วสูงสุด 1,900 รอบต่อนาที และแรงบิดสูงสุด 54 นิวตันเมตร ทำให้เหมาะสำหรับงานหนักและงานเจาะรูขนาดใหญ่ นอกจากนี้ ยังมีระบบป้องกันการใช้งานเกินกำลังและความร้อนสูง
3. DeWalt DCD796D2
DeWalt DCD796D2 เป็นสว่านไร้สายที่ทรงพลังอีกรุ่นหนึ่ง ที่ใช้แบตเตอรี่ลิเธียมไอออน 20 โวลต์ เครื่องมือนี้ให้แรงบิดสูงถึง 70 นิวตันเมตร และความเร็วสูงสุด 2,000 รอบต่อนาที ซึ่งเพียงพอสำหรับการเจาะคอนกรีตหรือเหล็ก สว่านรุ่นนี้ยังมีไฟ LED ในตัว ช่วยให้มองเห็นพื้นที่ทำงานได้ชัดเจนยิ่งขึ้น รวมถึงมีระบบป้องกันการใช้งานเกินกำลังและความร้อนสูงเช่นกัน
4. Ryobi R18DDBL-0
Ryobi R18DDBL-0 เป็นสว่านไร้สายราคาประหยัดที่ใช้แบตเตอรี่ 18 โวลต์ แม้จะมีราคาถูกกว่าแบรนด์อื่นๆ แต่ก็มีคุณสมบัติครบครัน ทั้งแรงบิดสูงสุด 45 นิวตันเมตร ความเร็ว 1,600 รอบต่อนาที และไฟ LED ในตัว เหมาะสำหรับงานเจาะและขันสกรูทั่วไปที่บ้าน หรือสำหรับมือสมัครเล่นที่ต้องการเครื่องมือราคาไม่แพง
5. Milwaukee M18 FUEL
Milwaukee M18 FUEL เป็นสว่านไร้สายระดับมืออาชีพ ที่ใช้แบตเตอรี่ลิเธียมไอออน 18 โวลต์ สว่านรุ่นนี้ให้แรงบิดสูงถึง 135 นิวตันเมตร และความเร็ว 2,000 รอบต่อนาที ซึ่งแรงและเร็วพอๆ กับสว่านไฟฟ้าแบบมีสาย ด้วยเทคโนโลยี FUEL ของ Milwaukee สว่านรุ่นนี้จึงทำงานได้นานและมีอายุการใช้งานยาวนาน เหมาะสำหรับช่างมืออาชีพที่ต้องใช้งานหนักเป็นประจำ
6. Metabo BS 18 LTX BL Q I
Metabo BS 18 LTX BL Q I เป็นอีกหนึ่งสว่านไร้สายระดับพรีเมียมที่ใช้แบตเตอรี่ 18 โวลต์ สว่านรุ่นนี้มีระบบ Brushless Motor ที่ทำให้มอเตอร์ทำงานได้เร็วและนานขึ้น โดยให้แรงบิดสูงสุด 110 นิวตันเมตร นอกจากนี้ ยังมีระบบ Precision Stop ที่ช่วยป้องกันไม่ให้สว่านหมุนเกินกำลัง และจอแสดงผล LED ที่บอกสถานะของสว่านและแบตเตอรี่
7. Hitachi DS18DBSL
Hitachi DS18DBSL เป็นสว่านไร้สายคุณภาพสูงอีกรุ่นหนึ่ง ที่ใช้แบตเตอรี่ลิเธียมไอออน 18 โวลต์ และให้แรงบิดสูงสุด 92 นิวตันเมตร สว่านรุ่นนี้มีระบบควบคุมแรงบิดอัจฉริยะ ที่ช่วยให้สว่านหยุดหมุนโดยอัตโนมัติเมื่อขันสกรูเสร็จ ป้องกันไม่ให้สกรูแตกหรือผิดรูป นอกจากนี้ ยังมีฟังก์ชันการเจาะกระแทกสำหรับเจาะคอนกรีตหรือปูน
8. Panasonic EY74A2
Panasonic EY74A2 เป็นสว่านไร้สายที่ใช้แบตเตอรี่ลิเธียมไอออนคู่ ที่ให้แรงดันไฟฟ้ารวม 28.8 โวลต์ ทำให้มีพลังมากพอสำหรับงานหนักๆ สว่านรุ่นนี้ให้แรงบิดสูงสุด 80 นิวตันเมตร และมีระบบป้องกันการใช้งานเกินกำลังและความร้อนสูง ส่วนด้ามจับนั้นออกแบบมาให้จับถนัดมือและลดอาการล้ามือได้ดี เหมาะสำหรับใช้งานเป็นเวลานาน
9. Ridgid R86116K
Ridgid R86116K เป็นสว่านไร้สายที่ใช้แบตเตอรี่ลิเธียมไอออน 18 โวลต์ และมาพร้อมกับกล่องเก็บอุปกรณ์และดอกสว่านหลากหลายขนาด สว่านรุ่นนี้ให้แรงบิดสูงสุด 55 นิวตันเมตร และมีความเร็วสูงสุด 1,700 รอบต่อนาที ตัวเครื่องมีน้ำหนักเบา จับถนัดมือ ใช้งานได้สะดวก ราคาไม่แพงเกินไปเมื่อเทียบกับคุณสมบัติ เหมาะสำหรับใช้ในบ้านหรืองานเบาๆ ทั่วไป
10. SKIL CB742901
SKIL CB742901 เป็นสว่านไร้สายราคาถูกที่ใช้แบตเตอรี่ 12 โวลต์ เหมาะสำหรับผู้ที่มีงบจำกัด แต่ต้องการเครื่องมือไฟฟ้าสำหรับงานง่ายๆ ที่บ้าน สว่านรุ่นนี้ให้แรงบิดเพียง 25 นิวตันเมตร และมีความเร็ว 1,350 รอบต่อนาที ซึ่งอาจไม่เพียงพอสำหรับงานหนัก แต่ก็เหมาะสำหรับงานขนาดเล็ก เช่น ขันสกรูหรือเจาะรูไม้ การออกแบบมีน้ำหนักเบา จับถนัดมือ แบตเตอรี่ถอดเปลี่ยนได้ง่าย ถือเป็นสว่านไร้สายราคาประหยัดที่ใช้งานง่าย
วิธีเลือกซื้อสว่านไร้สายให้เหมาะกับการใช้งาน
การเลือกซื้อสว่านไร้สายนั้น มีปัจจัยหลายอย่างที่ต้องพิจารณา ดังนี้
1. ประเภทของงาน
งานที่จะใช้สว่านทำนั้นเป็นงานหนักหรืองานเบา ถ้าเป็นงานหนัก เช่น เจาะคอนกรีตหรือเหล็ก ควรเลือกสว่านที่มีกำลังไฟสูงและแรงบิดมาก แต่ถ้าเป็นงานเบา เช่น ขันสกรูหรือเจาะไม้ สว่านกำลังไฟต่ำกว่าก็เพียงพอ
2. ขนาดแบตเตอรี่
แบตเตอรี่ที่มีโวลต์สูงกว่าจะให้พลังงานมากกว่า แต่ก็มีน้ำหนักมากกว่าด้วย ควรเลือกให้เหมาะกับการใช้งาน ถ้าต้องใช้งานนานๆ หรืองานหนัก ควรเลือกแบตเตอรี่โวลต์สูง แต่ถ้าเป็นงานเบาหรือใช้เวลาสั้น แบตเตอรี่โวลต์ต่ำก็เพียงพอ
3. แรงบิดและความเร็ว
แรงบิดสูงจะช่วยให้ขันสกรูหรือเจาะวัสดุแข็งได้ดีขึ้น ส่วนความเร็วสูงจะช่วยให้ทำงานได้เร็วขึ้น ควรเลือกให้สมดุลกันและเหมาะกับประเภทของงาน งานหนักต้องการแรงบิดสูง ส่วนงานเบาต้องการความเร็วมากกว่า
4. น้ำหนักและขนาด
สว่านที่มีน้ำหนักเบาและขนาดกะทัดรัดจะช่วยให้ใช้งานได้นานขึ้นโดยไม่เมื่อยล้า แต่สว่านขนาดใหญ่และหนักกว่าก็มักจะมีกำลังมากกว่า ควรเลือกให้เหมาะกับสรีระและความถนัดของผู้ใช้งานเป็นหลัก
5. ฟังก์ชันเสริม
สว่านบางรุ่นมีฟังก์ชันเสริม เช่น ไฟ LED ระบบควบคุมแรงบิด หรือระบบป้องกันความร้อนและแบตเตอรี่เสื่อม ซึ