1. เครื่องวัดอุณหภูมิแบบอินฟราเรด
เครื่องวัดอุณหภูมิแบบอินฟราเรดกลายเป็นที่นิยมอย่างมากในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ด้วยความสะดวกรวดเร็วและแม่นยำในการวัดอุณหภูมิร่างกาย ไม่จำเป็นต้องสัมผัสโดยตรง แค่ชี้ไปที่หน้าผากแล้วกดปุ่ม ผลการวัดก็จะปรากฏบนหน้าจอภายในเสี้ยววินาที น่าทึ่งใช่ไหมล่ะ?
2. เครื่องวัดอุณหภูมิแบบดิจิตอล
แม้จะไม่ทันสมัยเท่าเครื่องวัดอุณหภูมิอินฟราเรด แต่เครื่องวัดอุณหภูมิแบบดิจิตอลก็ยังคงได้รับความนิยมอยู่ เพราะให้ผลการวัดที่แม่นยำ ราคาไม่แพง และใช้งานง่าย เหมาะสำหรับใช้ในครัวเรือนหรือพกพาติดตัวไปไหนมาไหนได้อย่างสะดวก คุณคิดว่าเครื่องวัดอุณหภูมิแบบไหนเหมาะกับคุณมากกว่ากัน?
3. เครื่องวัดอุณหภูมิสำหรับเด็กทารก
ในการเลี้ยงดูลูกน้อย การวัดอุณหภูมิร่างกายเป็นเรื่องสำคัญที่ต้องเช็คอยู่เสมอ เครื่องวัดอุณหภูมิสำหรับทารกจึงเป็นของจำเป็นที่พ่อแม่หลายคนมักจะมีติดบ้าน ด้วยดีไซน์ที่น่ารัก มีเสียงเพลงและแสงไฟดึงดูดความสนใจของเด็ก ช่วยให้วัดอุณหภูมิได้ง่ายขึ้น ไม่เช่นนั้นลูกน้อยอาจจะดิ้นหนีซะก่อน
ข้อดีของเครื่องวัดอุณหภูมิสำหรับทารก
- ดีไซน์น่ารักเหมาะสำหรับเด็ก
- มีเสียงและแสงไฟที่ช่วยดึงดูดความสนใจ
- วัดอุณหภูมิได้ง่าย ไม่ต้องห่วงว่าเด็กจะไม่ให้ความร่วมมือ
4. เทอร์โมมิเตอร์ปรอท
นี่คือเครื่องวัดอุณหภูมิในตำนาน ที่ใช้กันมาเนิ่นนาน ถึงจะถูกแทนที่ด้วยเทคโนโลยีใหม่ๆ ไปบ้างแล้ว แต่เทอร์โมมิเตอร์ปรอทก็ยังมีจุดเด่นตรงความทนทาน ถ้าใช้งานอย่างระมัดระวังสามารถใช้ได้เป็นสิบๆ ปี คุณเคยใช้เทอร์โมมิเตอร์ปรอทในสมัยเด็กๆ บ้างไหม?
5. เครื่องวัดอุณหภูมิแบบสัมผัส
อีกหนึ่งทางเลือกสำหรับคนที่ไม่ถูกกับเครื่องวัดอุณหภูมิแบบสอดปาก นั่นคือเครื่องวัดอุณหภูมิแบบสัมผัส เพียงแค่จ่อเข้าไปที่หน้าผากหรือหลังใบหู ก็สามารถวัดอุณหภูมิร่างกายได้อย่างรวดเร็ว การใช้งานก็ไม่ยุ่งยาก เหมาะสำหรับผู้ใหญ่ เด็กโต หรือผู้สูงอายุ
6. เครื่องวัดอุณหภูมิแบบห้อย
สำหรับโรงพยาบาล คลินิก หรือบริษัทขนาดใหญ่ เครื่องวัดอุณหภูมิแบบห้อยเป็นอีกทางเลือกที่น่าสนใจ เพราะสามารถวัดอุณหภูมิได้อย่างรวดเร็วและถูกสุขอนามัย ด้วยการติดตั้งไว้ตามจุดต่างๆ เมื่อใช้งานเสร็จแล้วก็สามารถปล่อยทิ้งไว้ที่เดิม ไม่จำเป็นต้องมีการบำรุงรักษามากมาย
ข้อดีของเครื่องวัดอุณหภูมิแบบห้อย
- ติดตั้งใช้งานง่าย สามารถวางไว้ตามจุดต่างๆ ได้
- ถูกสุขอนามัย ไม่ต้องสัมผัสโดยตรง
- เหมาะสำหรับสถานที่มีคนใช้งานจำนวนมาก
7. เครื่องวัดอุณหภูมิรุ่นพกพา
ถ้าคุณมักจะเดินทางบ่อยๆ การมีเครื่องวัดอุณหภูมิรุ่นพกพาติดตัวไว้ก็เป็นความคิดที่ดี เพราะมันมีขนาดเล็ก น้ำหนักเบา สะดวกต่อการพกพา บางรุ่นถึงกับมีฟังก์ชันพิเศษอย่างการเชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟนเพื่อบันทึกข้อมูลการวัดอุณหภูมิอีกด้วย ฟังดูน่าสนใจใช่ไหมล่ะ?
8. เครื่องวัดอุณหภูมิแบบสายรัดข้อมือ
นวัตกรรมใหม่ล่าสุดของเครื่องวัดอุณหภูมิคงจะหนีไม่พ้นรุ่นสายรัดข้อมือ ที่นอกจากจะสามารถวัดอุณหภูมิร่างกายได้แล้ว ยังมีฟังก์ชันอื่นๆ เช่น วัดชีพจร นับจำนวนก้าว หรือแม้กระทั่งเตือนให้ดื่มน้ำ ใครที่กำลังมองหาเครื่องวัดอุณหภูมิไว้ติดตัว ลองพิจารณารุ่นนี้ดูได้นะ
9. เครื่องวัดอุณหภูมิแบบอุปกรณ์เสริมมือถือ
ด้วยเทคโนโลยีที่ก้าวหน้า ตอนนี้เรามีทางเลือกในการเปลี่ยนสมาร์ทโฟนให้กลายเป็นเครื่องวัดอุณหภูมิได้ด้วยอุปกรณ์เสริมขนาดเล็กที่ต่อเข้ากับมือถือ แค่ดาวน์โหลดแอปพลิเคชันที่เกี่ยวข้อง ก็สามารถวัดอุณหภูมิร่างกายได้แล้ว ดูเหมือนว่าเราจะพกพามือถือไปทุกที่ทุกเวลาอยู่แล้ว ก็เลยสะดวกดีใช่ไหมล่ะ
หมายเหตุ: ควรใช้อุปกรณ์เสริมจากแบรนด์ที่น่าเชื่อถือเพื่อให้ได้ผลวัดอุณหภูมิที่แม่นยำที่สุด
10. เครื่องวัดอุณหภูมิในหู
ทางเลือกสุดท้ายที่จะกล่าวถึงคือเครื่องวัดอุณหภูมิในหู ซึ่งเป็นอีกวิธีที่ใช้กันบ่อยเช่นกัน เพียงสอดหัววัดเข้าไปในรูหูแล้วกดปุ่ม ภายในไม่กี่วินาที ผลการวัดก็จะปรากฏบนหน้าจอ ถือเป็นอีกวิธีที่รวดเร็วและสะดวก แถมยังให้ค่าที่แม่นยำมากอีกด้วย
ข้อสรุป
จากที่เราได้พูดคุยกันมา คุณจะเห็นได้ว่ามีเครื่องวัดอุณหภูมิร่างกายหลากหลายประเภทให้เลือกใช้ตามความเหมาะสม ไม่ว่าจะเป็นแบบดั้งเดิมอย่างเทอร์โมมิเตอร์ปรอท ไปจนถึงแบบใหม่ๆ อย่างรุ่นสายรัดข้อมือ ซึ่งแต่ละแบบก็มีข้อดีข้อเสียแตกต่างกันไป หวังว่าบทความนี้จะช่วยให้ท่านมีข้อมูลในการตัดสินใจเลือกซื้อเครื่องวัดอุณหภูมิที่เหมาะกับตนเองมากขึ้นนะคะ อย่าลืมไปเช็คกันดูบน Shopee นะ แล้วพบกันใหม่ในบทความหน้า สวัสดีค่ะ!