วันอังคาร, 17 กันยายน 2567

10 เลื่อยไฟฟ้าไร้สายยอดนิยม ปี 2024

1. Bosch GSA 18V-LI Professional Cordless Reciprocating Saw

ข้อดี

  • มีประสิทธิภาพในการตัดสูง ด้วยมอเตอร์ไร้แปรงถ่าน
  • มีระบบควบคุมการสั่นสะเทือน ช่วยลดความเมื่อยล้าในการทำงาน
  • ใช้งานได้นานถึง 30 นาทีต่อการชาร์จแบตเตอรี่ 1 ครั้ง

ข้อเสีย

  • ราคาค่อนข้างสูง
  • น้ำหนักเครื่องค่อนข้างมาก

2. DeWalt DCS367N XR Brushless Compact Reciprocating Saw

ข้อดี

  • มีประสิทธิภาพในการตัดสูง ด้วยมอเตอร์ไร้แปรงถ่าน
  • มีไฟ LED ส่องสว่างบริเวณที่ตัด ช่วยเพิ่มความแม่นยำในการทำงาน
  • มีน้ำหนักเบา เพียง 2.4 กิโลกรัม ใช้งานได้สะดวก

ข้อเสีย

  • ราคาสูง
  • แบตเตอรี่และแท่นชาร์จแยกจำหน่าย

3. Milwaukee M18 FUEL Sawzall Reciprocating Saw Kit

ข้อดี

  • มีประสิทธิภาพการตัดที่ยอดเยี่ยม ตัดเร็วกว่าเลื่อยไฟฟ้าแบบมีสายถึง 30%
  • ใช้งานได้ยาวนานถึง 50 นาทีต่อการชาร์จ 1 ครั้ง
  • มีระบบป้องกันการใช้งานหนักเกินไป ยืดอายุการใช้งานของเครื่อง

ข้อเสีย

  • ราคาแพง
  • ใบเลื่อยมีราคาสูง

4. Makita DJR187Z 18V LXT Li-Ion Cordless Reciprocating Saw

ข้อดี

  • มีระบบเปลี่ยนใบเลื่อยได้รวดเร็ว โดยไม่ต้องใช้เครื่องมือ
  • มีระบบป้องกันการใช้งานหนักเกินไป ยืดอายุการใช้งานของเครื่อง
  • มีน้ำหนักเบา เพียง 3.3 กิโลกรัม สะดวกในการใช้งาน

ข้อเสีย

  • แบตเตอรี่และแท่นชาร์จแยกจำหน่าย
  • ใช้งานได้ไม่นานเท่ากับรุ่นอื่นๆ ประมาณ 20 นาทีต่อการชาร์จ 1 ครั้ง

5. RYOBI ONE+ P514 18V Cordless Reciprocating Saw

ข้อดี

  • ราคาไม่แพงเมื่อเทียบกับยี่ห้ออื่น
  • มีน้ำหนักเบา เพียง 2 กิโลกรัม สะดวกต่อการใช้งาน
  • เข้ากันได้กับแบตเตอรี่ RYOBI ONE+ รุ่นอื่นๆ

ข้อเสีย

  • ประสิทธิภาพการตัดต่ำกว่ายี่ห้ออื่น
  • ไม่มีระบบควบคุมการสั่นสะเทือน

6. WORX WX508L 20V Power Share Axis Cordless Reciprocating Saw

ข้อดี

  • สามารถปรับองศาของใบเลื่อยได้ถึง 4 ทิศทาง ใช้งานได้หลากหลาย
  • มีการออกแบบที่เน้นความสมดุลในการจับ ลดความเมื่อยล้า
  • เข้ากันได้กับแบตเตอรี่ WORX Power Share รุ่นอื่นๆ

ข้อเสีย

  • คุณภาพอาจไม่ทัดเทียมกับแบรนด์ชั้นนำ
  • ระยะเวลาการรับประกันสั้นกว่าบางยี่ห้อ

7. SKIL PWRCore 20 Brushless 20V Compact Reciprocating Saw

ข้อดี

  • มีประสิทธิภาพการตัดสูง ด้วยมอเตอร์ไร้แปรงถ่าน
  • มีระบบเปลี่ยนใบเลื่อยได้ง่าย ไม่ต้องใช้เครื่องมือ
  • ใช้งานได้นานถึง 30 นาทีต่อการชาร์จ 1 ครั้ง

ข้อเสีย

  • ไม่มีระบบควบคุมการสั่นสะเทือน
  • แบตเตอรี่และแท่นชาร์จแยกจำหน่าย

8. Hilti WSR 18-A CPC Cordless Reciprocating Saw

ข้อดี

  • มีประสิทธิภาพการตัดสูงมาก สำหรับงานหนัก
  • สร้างแรงสั่นสะเทือนต่ำ ใช้งานได้สบายตลอดวัน
  • สามารถเชื่อมต่อกับแอป Hilti Connect เพื่อตรวจสอบสถานะได้

ข้อเสีย

  • ราคาสูงมาก
  • แบตเตอรี่และแท่นชาร์จแยกจำหน่าย ราคาแพง

9. CRAFTSMAN V20 Cordless Reciprocating Saw Kit

ข้อดี

  • ราคาไม่แพงนัก เหมาะสำหรับมือสมัครเล่น
  • พร้อมแบตเตอรี่และแท่นชาร์จในชุด
  • มีระบบเปลี่ยนใบเลื่อยง่าย ไม่ต้องใช้เครื่องมือ

ข้อเสีย

  • ประสิทธิภาพการตัดไม่สูงนัก เหมาะกับงานเบา
  • ไม่มีระบบควบคุมการสั่นสะเทือน

10. RIDGID OCTANE 18V Brushless Reciprocating Saw R8642B

ข้อดี

  • มีแรงตัดสูงถึง 3200 SPM ตัดได้รวดเร็ว
  • ใช้งานได้ยาวนานถึง 45 นาทีต่อการชาร์จ 1 ครั้ง
  • มีระบบลดการสั่นสะเทือน ช่วยป้องกันความเมื่อยล้า

ข้อเสีย

  • ราคาค่อนข้างสูง
  • ใบเลื่อยและอุปกรณ์เสริมมีราคาแพง

เมื่อเลือกซื้อเลื่อยไฟฟ้าไร้สาย ให้พิจารณาถึงประสิทธิภาพในการตัด ระยะเวลาในการใช้งานต่อการชาร์จแบตเตอรี่ 1 ครั้ง รวมถึงน้ำหนักและความสะดวกในการใช้งาน โดยเลือกให้เหมาะกับลักษณะงานและงบประมาณที่มี เพื่อให้ได้เลื่อยไร้สายที่ตอบโจทย์การใช้งานของคุณมากที่สุด

คำถามที่พบบ่อย

1. เลื่อยไฟฟ้าไร้สายรุ่นไหนเหมาะกับงานตัดไม้ขนาดใหญ่?

เลื่อยไร้สายที่มีประสิทธิภาพสูงและแรงตัดมาก เช่น Milwaukee M18 FUEL Sawzall, Hilti WSR 18-A หรือ Bosch GSA 18V-LI เหมาะสำหรับงานตัดไม้ขนาดใหญ่ เพราะมีแรงและความเร็วในการตัดที่มากเป็นพิเศษ

2. อะไหล่และอุปกรณ์เสริมของเลื่อยไร้สายหาซื้อได้ง่ายหรือไม่?

เลื่อยไร้สายจากแบรนด์ชั้นนำส่วนใหญ่ เช่น Bosch, DeWalt, Makita หรือ Milwaukee จะมีอะไหล่และอุปกรณ์เสริมวางจำหน่ายทั่วไป สามารถหาซื้อได้ไม่ยาก ในขณะที่บางแบรนด์อาจมีจำหน่ายน้อยกว่า

3. เลื่อยไร้สายเหมาะกับการใช้งานบ่อยแค่ไหน?

หากต้องใช้เลื่อยเป็นประจำทุกวัน แนะนำให้เลือกรุ่นที่มีคุณภาพสูง ทนทาน และมีระบบระบายความร้อนที่ดี เพื่อป้องกันความเสียหายจากการใช้งานหนัก ส่วนการใช้งานตามบ้านทั่วไป เลื่อยรุ่นมาตรฐานก็เพียงพอแล้ว