เคล็ดลับที่ 1: เลือกวัสดุที่ปลอดภัยและทนทาน
เมื่อต้องเลือกกล่องใส่อาหาร 4 ช่อง สิ่งแรกที่ต้องคำนึงถึงคือวัสดุที่ใช้ทำ วัสดุควรจะปลอดภัยต่อการใช้งานและไม่เป็นอันตรายต่อสุขภาพ นอกจากนี้ยังต้องมีความทนทานแข็งแรง ไม่แตกหักง่าย เพื่อการใช้งานที่ยาวนาน
วัสดุยอดนิยมสำหรับกล่องใส่อาหาร
- พลาสติก: เบา ทนทาน ราคาไม่แพง แต่ต้องเลือกพลาสติกเกรดดีที่ปลอดภัย
- แก้ว: ปลอดภัย ไม่ดูดซับกลิ่น แต่มีน้ำหนักและราคาสูงกว่า
- สแตนเลส: ทนทาน ปลอดภัย แต่ราคาสูงและหนักกว่าพลาสติก
เกร็ดน่ารู้
เลือกวัสดุให้เหมาะกับการใช้งาน เช่น หากต้องอุ่นอาหารในไมโครเวฟบ่อย ๆ ควรเลือกกล่องที่ทำจากแก้วหรือพลาสติกที่ทนความร้อนได้ดี
เคล็ดลับที่ 2: ขนาดและจำนวนช่องต้องเหมาะสม
กล่องใส่อาหาร 4 ช่องมีขนาดและความจุแตกต่างกันไป ควรเลือกให้เหมาะกับปริมาณอาหารที่ต้องการใส่ในแต่ละมื้อ รวมถึงพิจารณาพื้นที่ในการจัดเก็บด้วย
ขนาดยอดนิยมของกล่องใส่อาหาร 4 ช่อง
- ขนาดเล็ก: เหมาะสำหรับเด็กหรือผู้ที่ทานอาหารน้อย
- ขนาดกลาง: เหมาะกับผู้ใหญ่ทั่วไป จุอาหารได้พอดี
- ขนาดใหญ่: เหมาะสำหรับผู้ที่ทานอาหารเยอะหรือต้องการแบ่งอาหารมากกว่า 1 มื้อ
เกร็ดน่ารู้
ลองนึกภาพปริมาณอาหารที่ตัวเองทานต่อมื้อ แล้วเลือกขนาดกล่องให้พอดี อย่าเลือกใหญ่หรือเล็กจนเกินไป
เคล็ดลับที่ 3: ฝาปิดต้องแน่นหนา ป้องกันการรั่วซึม
หนึ่งในปัญหาใหญ่ของการพกพากล่องใส่อาหารคือการรั่วซึมของน้ำหรือซอส ดังนั้นควรเลือกกล่องที่มีฝาปิดแน่นหนา สามารถกันการรั่วซึมได้ดี จะได้ไม่เปื้อนเป็นคราบน้ำซอสในกระเป๋า
ประเภทฝาปิดของกล่องใส่อาหาร
- ฝาปิดแบบธรรมดา: ปิดได้แน่นระดับหนึ่ง แต่ยังมีโอกาสรั่วซึมได้บ้าง
- ฝาปิดซิลิโคน: มีแถบยางซิลิโคนเพิ่มความแน่นหนาในการปิดฝา ป้องกันการรั่วซึมได้ดี
- ฝาปิดล็อค: มีตัวล็อคเพิ่มแรงกดให้ฝาปิดสนิท ช่วยป้องกันการรั่วซึมได้มากที่สุด
เกร็ดน่ารู้
ในกรณีที่ใส่อาหารที่มีน้ำหรือซอสเยอะ ลองใส่แนวนอนในถุงพลาสติกอีกชั้น เพื่อความมั่นใจว่าจะไม่รั่วซึมขณะพกพา
เคล็ดลับที่ 4: ความสะดวกในการทำความสะอาด
เนื่องจากกล่องใส่อาหารเป็นสิ่งที่ต้องใช้บ่อย การทำความสะอาดจึงเป็นเรื่องสำคัญ ควรเลือกกล่องที่ล้างทำความสะอาดง่าย ไม่มีซอกมุมให้คราบสกปรกฝังแน่น
วิธีง่าย ๆ ในการทำความสะอาดกล่องอาหาร
- ล้างด้วยน้ำสบู่อุ่นทันทีหลังใช้งานเสร็จ อย่าปล่อยทิ้งไว้นาน
- ใช้แปรงขนนุ่มเข้าถึงซอกมุมต่าง ๆ ของกล่อง
- บางกล่องสามารถใส่เครื่องล้างจานได้ ตรวจสอบจากคู่มือหรือข้อมูลของผู้ผลิต
เกร็ดน่ารู้
เทน้ำร้อนผสมน้ำส้มสายชูลงในกล่องแล้วแช่ทิ้งไว้ 30 นาที จะช่วยขจัดคราบไขมันและกลิ่นอับได้ดี ก่อนล้างด้วยน้ำสบู่ตามปกติ
เคล็ดลับที่ 5: มีช่องแยกสำหรับอาหารประเภทต่างๆ
กล่องใส่อาหาร 4 ช่องช่วยแยกประเภทของอาหารได้ดี ไม่ปะปนกัน ทำให้รับประทานสะดวกขึ้น บางกล่องมีช่องแยกสำหรับอาหารร้อนและเย็น หรืออาหารแห้งและอาหารที่มีน้ำ เป็นต้น
ประโยชน์ของการแยกประเภทอาหาร
- ทำให้อาหารไม่ปนกัน รสชาติคงเดิม
- ง่ายต่อการหยิบทานโดยไม่ต้องแยกใหม่
- ควบคุมปริมาณแต่ละอย่างได้ หากมีข้อจำกัดด้านโภชนาการ
เกร็ดน่ารู้
วางแผนเมนูอาหารตามช่องต่าง ๆ ในกล่อง เช่น แยกผัก เนื้อสัตว์ ข้าว และผลไม้ จะช่วยจัดสัดส่วนมื้ออาหารให้ครบถ้วน
เคล็ดลับที่ 6: ใช้งานได้ในไมโครเวฟและช่องแช่แข็ง
หลายคนนิยมเตรียมอาหารล่วงหน้าแล้วนำไปอุ่นทานในภายหลัง กล่องใส่อาหาร 4 ช่องที่สามารถใช้งานในไมโครเวฟและช่องแช่แข็งได้จะมีประโยชน์มาก ไม่ต้องเสียเวลาเปลี่ยนภาชนะ
ข้อควรระวังเมื่อใช้กล่องในไมโครเวฟ
- ตรวจสอบให้แน่ใจว่าวัสดุของกล่องเหมาะกับการใช้ในไมโครเวฟ
- ห้ามใช้กล่องที่มีโลหะเป็นส่วนประกอบ
- เปิดฝาหรือเจาะรูระบายไอน้ำก่อนอุ่น ป้องกันความดันสะสม
เกร็ดน่ารู้
ก่อนแช่แข็งอาหารในกล่อง ควรรอให้เย็นลงก่อน ไม่เช่นนั้นไอความร้อนอาจทำให้กล่องเสียรูปทรงได้
เคล็ดลับที่ 7: ออกแบบที่เรียบง่าย ขนาดกะทัดรัด
กล่องใส่อาหารควรมีดีไซน์ที่เรียบง่าย ขนาดกะทัดรัด เพื่อความสะดวกในการพกพาและจัดเก็บ ไม่ควรมีส่วนเกินที่ไม่จำเป็น เพราะจะทำให้เปลืองพื้นที่
ข้อดีของกล่องใส่อาหารที่มีดีไซน์เรียบง่าย
- ประหยัดพื้นที่ในกระเป๋าหรือตู้เก็บ
- น้ำหนักเบา พกพาสะดวก
- ทำความสะอาดได้ง่าย ไม่มีจุดอับที่เข้าถึงยาก
เกร็ดน่ารู้
หากซื้อกล่องหลายใบ ให้เลือกแบบที่สามารถวางซ้อนกันได้ จะประหยัดพื้นที่เก็บได้มาก
เคล็ดลับที่ 8: สีสันสดใส ดึงดูดใจ
แม้ประโยชน์ใช้สอยจะเป็นหัวใจสำคัญ แต่กล่องใส่อาหารที่มีสีสันสดใส ลวดลายน่ารัก ก็ช่วยเพิ่มความน่าสนใจในการทานอาหารได้เช่นกัน โดยเฉพาะเด็ก ๆ ที่มักชอบสิ่งของหลากสี
เลือกสีกล่องให้เหมาะกับวัย
- สำหรับเด็ก: เลือกโทนสีสดใส มีลวดลายตัวการ์ตูน
- วัยรุ่น: เลือกสีพาสเทลหรือลายกราฟิกทันสมัย
- วัยทำงาน: เลือกสีเรียบหรู ลายมินิมอล ดูมีระดับ
เกร็ดน่ารู้
หมั่นเปลี่ยนสีสันและลวดลายของกล่องเป็นระยะ จะช่วยไม่ให้รู้สึกเบื่อหรือจำเจกับการกินข้าวกล่องทุกวัน
เคล็ดลับที่ 9: เลือกจากแบรนด์ที่น่าเชื่อถือ
ควรเลือกซื้อกล่องใส่อาหารจากแบรนด์ที่มีชื่อเสียง เชื่อถือได้ มีการรับประกันคุณภาพ เพื่อให้มั่นใจว่าจะได้กล่องที่ดี ปลอดภัย และมีอายุการใช้งานยาวนาน
แบรนด์กล่องใส่อาหารยอดนิยม
- Lock & Lock
- Tupperware
- Rubbermaid
- Sistema
เกร็ดน่ารู้
อย่าหลงเชื่อแบรนด์ที่ขายราคาถูกเกินจริง เพราะอาจได้กล่องที่มีคุณภาพต่ำ ไม่ปลอดภัย ใช้งานได้